ณ วันที่อินเตอร์เน็ตเปรียบเสมือนอากาศที่คนยุคใหม่ขาดไม่ได้ Social Media ทั้ง Line, Facebook หรือ Twitter กลายเป็นปัจจัยสี่ เป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็น สร้างตัวตน และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจทางบริษัทหรือฟรีแลนซ์ เราใช้เวลาโพสต์สเตตัสแค่ไม่กี่วินาที แต่ข้อความนั้นจะอยู่บนโลกออนไลน์ไปอีกนาน Social Media จึงไม่ใช่ “พื้นที่ส่วนตัว” อย่างที่หลายคนเข้าใจ
ถึงแม้ว่าจะตั้งค่าความเป็นส่วนตัวแค่ไหน แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหล วันหนึ่งคุณอาจจะตกเป็นเหยื่อของแฮคเกอร์ อย่าลืมว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในยุคดิจิทัล ที่การก๊อปปี้ข้อความหรือรูปภาพง่ายแค่ปลายนิ้ว พลาดนิดเดียวอาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานจนถึงขั้นถูกไล่ออกเลยก็ได้ มาดู Social Media กับข้อควรระวัง ทั้ง 5 ข้อดังนี้
บ่นเรื่องที่ทำงาน
หลายคนใช้พื้นที่ Social Media เพื่อระบายอารมณ์ ปลดปล่อยความเครียดความกดดันจากในที่ทำงาน แต่บางคนคึกคะนองจนถึงขั้นนินทาเจ้านาย เปิดเผยเงินเดือนหรือข้อมูลสำคัญของบริษัท เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเป็นเรื่องภายในองค์กรซึ่งถือเป็นความลับ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องไม่จริงก็เข้าข่ายให้ร้ายบริษัท อย่าลืมว่าโลกออนไลน์มีหลายสายตาจับจ้องคุณอยู่ แม้กระทั้งฝ่าย HR บางแห่งก็คัดเลือกและตรวจสอบผู้สมัครงานจากประวัติ Social Media รวมถึงเพื่อนใน Social Media ของคุณอาจจะเป็นคนรู้จักกับ HR ในบริษัทที่คุณกำลังรอผลสัมภาษณ์งานอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งคุณอาจถูกตัดสินจากโพสต์ๆ เดียว ที่สะท้อนทัศนคติแง่ลบ จนพลาดโอกาสในตำแหน่งที่หวังไว้ก็เป็นได้
โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท
การโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่นเหยียดหยาม นอกจากจะสร้างความเสียหายให้ผู้อื่นแล้ว อาจเข้าข่ายผิดกฏหมายด้วย จากข่าวดังเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวเน็ตขุดคุ้ยประวัติ Social Media ของชายหนุ่มผู้หนึ่ง แล้วพบข้อความวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทยอย่างรุนแรง เพียงแค่ชั่วข้ามคืนทำให้เขากลายเป็นบุคคลในข่าวด้านลบ จนบริษัทต้นสังกัดต้องให้ออกจากงาน พฤติกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ที่ Social Media เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาเป็นคนที่สังคมจับจ้องและรุมประนาม เป็นข้อควรระวังที่ต้องระวังในโลก Social Media เช่นกัน
เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น
การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด และอีกมากมาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเปิดเผยในโลก Social เพราะเสี่ยงต่อการถูกขโมยอัตลักษณ์บุคคล (Identity Theft) บางคนชอบโพสต์ภาพตั๋วเครื่องบินของตัวเองกับเพื่อนหรือครอบครัว อาจฟังดูไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเท่าไหร่ แต่อย่าลืมว่าข้อมูลบนบัตรอย่างชื่อนามสกุล จุดเริ่มต้นของการเดินทาง จุดหมายปลายทาง และบาร์โค้ด คือการเอื้อประโยชน์ให้มิจฉาชีพ นอกจากนี้ หากยังจำกรณีของพนักงานส่งพัสดุที่โพสต์ภาพล้อเลียนพัสดุของลูกค้า รวมทั้งเปิดเผยข้อมูลชื่อและที่อยู่ด้วย สุดท้ายพนักงานคนดังกล่าวก็ถูกไล่ออกและดำเนินคดีตามกฏหมาย จะเปิดเผยข้อมูลของคุณในโลก Social ก็ควรคิดให้ละเอียดรอบคอบ
โพสต์ภาพวาบหวิว อนาจาร
ถึงแม้คุณจะไม่ใช่ดาราหรือเซเล็บ การโพสต์ภาพวาบหวิวจนเกินไปก็เป็นสิ่งไม่สมควร หากมีคนไม่หวังดีบันทึกภาพเหล่านั้นไว้ ต่อให้เราลบ ภาพก็ยังคงอยู่ ในอนาคตคุณอาจโดนกลั่นแกล้งหรือนำภาพมาประจานบน Socialซึ่งส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของหน้าที่การงาน โดยเฉพาะงานในองค์กรราชการหรือบริษัทที่เคร่งครัด และยังเสี่ยงโดนโจมตีจากพวกโรคจิตอีกด้วย ในกรณีที่โพสต์ภาพอนาจารคนอื่นก็เช่นกัน ก็สามารถสะท้อนรสนิยมของตัวผู้โพสต์ หากเจ้านายของคุณเห็นเข้าคงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่จะร่วมงานด้วย
แชร์ข่าวปลอม ปล่อยข่าวลือ
เมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นสื่อกระแสหลักที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ง่าย จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีกุข่าวลือ ประกอบกับความล้ำของเทคโนโลยีสมัยนี้ ทำให้การตัดต่อรูปภาพ ดัดแปลงข้อมูลทำได้แนบเนียนมาก เพราะฉะนั้นเวลาเกิดดราม่าใน Social อย่าเพิ่งรีบแชร์ ควรฟังความเห็นหลายๆ มุมก่อน เพราะเราอาจกลายเป็นกระบอกเสียงกระจายข่าวปลอมโดยไม่รู้ตัว
ไม่ว่าจะอยู่ใน Social Media หรือชีวิตจริง สิ่งที่ทุกคนควรตระหนักคือมารยาทในการอยู่ร่วมกันในสังคม ควรใช้วิจารณณาณว่าสิ่งที่เราจะนำเสนอออกไป จะส่งผลกระทบต่อใครบ้าง คิดสักนิดก่อนโพสต์ ไม่เช่นนั้นเรื่องเล็กๆ อาจกลายเป็นดราม่าใหญ่กว่าที่คิด Cr.jobsdb